ขับไปคุยไป

แต่ถ้าต้องความแรงแบบถึงใจต้องเรียกใช้บริการโหมด POWER  ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ตมากขึ้น โดยเครื่องยนต์จะทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อรีดกำลังให้ได้มากที่สุด  ทำให้สามารถเค้นกำลังออกมาได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นช่วงความเร็วระหว่าง 80-120 กม./ชม.ใช้เวลาแป๊บเดียวและสามารถเร่งต่อไปที่ 150 กม./ชม.ได้อย่างสบาย และในช่วงเร่งเครื่องแบบนี้ยังมีระบบที่สร้างเสียงสังเคราะห์เพื่อให้เสียงเครื่องยนต์เร้าใจยิ่งขึ้นด้วย   
 
 

ระหว่างทางหลายครั้งที่เจอกับรถบรรทุก  จะมั่วขับตามมองดูควันดำอยู่ทำไม  แซงสิครับ...รอช้าอยู่ทำไม  แค่กดคันเร่งเพิ่มความเร็วก็พุ่งขึ้นมาให้สามารถแซงผ่านรถบรรทุกไปได้อย่างสบาย โดยใช้ความเร็วมากกว่าเดิมประมาณ 110 กม./ชม. ซึ่งหายห่วงไม่มีอาการถูกดูดแต่อย่างใดรถวิ่งผ่านฉลุย  หรือบางช่วงถ้าเจอกับทางขึ้นเนินก็สามารถไต่ความเร็วต่อเนื่องขึ้นไปได้
 
 

ขณะเดียวกันการทำงานของเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ขึ้นชื่อของนิสสัน สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละจังหวะได้อย่างนุ่มนวล โดยช่วงต้น ๆ จะลากรอบราว 2,000 กว่ารอบจะช่วยให้ลื่นไหล จากนั้นจะลากเพิ่มราว 3,000 รอบยิ่งสามารถเรียกกำลังออกมาได้ไวขึ้นทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นไปที่ 100 กม./ชม.ที่ 1,750 รอบต่อนาทีได้ทันที
 
 

ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ไมเวค คลีนดีเซล อลูมินัม อัลลอย บล็อก ขนาด 2.4 ลิตรพร้อม VG เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที กับแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที และเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 สปีดใหม่พร้อมสปอร์ตโหมดและทำงานควบคู่กับระบบตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก
 
 

ขณะเดียวกันการตอบสนองของเกียร์สามารถทำได้อย่างลื่นไหล เวลาเร่งแซงถ้าลากรอบราว 3,000 รอบ สามารถเรียกกำลังออกมาได้ทันที แต่ถ้าความเร็วไม่ต่อเนื่องหากจะแซงให้ทันใจต้องลากสัก 4,000 รอบถึงจะผ่านได้สบาย แต่ถ้าให้ขับสนุกยิ่งขึ้นต้องเปลี่ยนมาใช้โหมดเกียร์ S สามารถลากรอบได้ลื่นไหลต่อเนื่อง...แต่ซดน้ำมัน
 
 

เมื่อเข้าสู่ถนนโล่งที่สามารถทำความเร็วได้เต็มที่ เชฟโรเล็ต ครูซ ดูจะไม่น้อยหน้าใคร เพราะถึงแม้ว่ารุ่นเดิมจะมีปัญหาเรื่องเกียร์ให้หลายคนได้กังวล แต่พอมาถึงรุ่นใหม่นี้ได้มีการพัฒนาระบบเกียร์อัตโนมัติในเจนเนอเรชั่นที่ 2 ในแบบ 6 สปีด GF6 ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้รับรู้ถึงการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลมากขึ้นและตอบสนองการขับขี่ได้ดีกว่าเดิม
 
 

ช่วงออกจากไฟแดงพอกดคันเร่งปุ๊บจะรับรู้ได้ถึงกำลังที่ปล่อยออกมาทันที โดยลองลากตั้งแต่เกียร์ 1-3 ประมาณ 2,000 รอบ ใช้เวลาไม่นานก็ขึ้นมา 100 กม./ชม.ที่1,800 รอบ และพอขับออกนอกเมืองได้สักพักยังคงทำความเร็วแบบขับสบาย ๆ และช่วงเร่งแซงจาก 80-120 กม./ชม.ทำได้รวดเร็ว เช่นเดียวกับเวลาเพิ่มความเร็วจาก100-120 กม./ชม. 2,100 รอบได้อย่างทันใจ
 
 

  ย้อนกลับ
Page of 2