ทุกการเดินทางที่ผ่านมาในชีวิตต้องยอมรับว่าที่นี่เป็นที่พักอีกแห่งหนึ่งของเขาค้อที่มาแล้วให้ความรู้สึกประทับใจในรูปแบบของการตกแต่งที่สวยงามอย่างมีสไตล์ และเชื่อว่าหลายคนมาแล้วคงรับรู้ได้ไม่ต่างกัน ซึ่งที่ว่านี้คือ BlueSky Resort @ KhaoKho จังหวัดเพชรบูรณ์  ที่ได้รับการออก แบบให้เป็นรีสอร์ทที่พักผ่อนในสไตล์อังกฤษ โดยทุกห้องพักมีการดีไซน์ในแบบวินเทจ พร้อมกับพื้นที่โดยรอบที่มีการตกแต่งสวนได้อย่างรื่นรมณ์  



     จากนั้นพอเข้ามาในส่วนของเช็คอิน ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรีเชฟชั่น ระหว่างนั้นได้มองโดยรอบทำให้เห็นรูปแบบการตกแต่งสไตล์วิทเทจ ทั้งในส่วนของแต่งที่อยู่ข้างฝา และเมื่อลงไปนั่งที่โซฟาอดสังเกตุไม่ได้กับหนังสีน้ำตาลที่ดูแล้วเก่า...เก๋า แต่นั้นสไตล์ที่จงใจทำให้ออกมาอย่างนั้น และยังของแต่งบ้านแบบคลาสิคให้ซื้อกลับไปแต่งที่บ้านได้อีกด้วย


 
   พอเดินออกมาเพื่อจะไปที่พักก็ต้องพบกันลานกว้างที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามเด่นด้วยลานรูปทรงกลมที่แต่งด้วยอิฐแดง ตรงกลางเป็นบ่อน้ำมีตุ๊กตาเด็กผู้ชายกับน้ำพุ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศโดยรอบได้อย่างลงตัว ยิ่งช่วงพลบค่ำจะเห็นละอองน้ำตัดกับแสงไฟได้อย่างสวยงาม และที่บริเวณนั้นยังมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งชมบรรยากาศของสวนสไตล์อังกฤษ ทำให้ต้องนั่งชมวิวมองไปให้ไกลสุดสายตาสักพักพร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์ที่หาไม่ได้สำหรับคนเมืองอย่างเรา 



     เมื่อเดินมาตามทางที่ทำเป็นหินก้อนวางเรียงกันแทนที่จะเทปูนแบบง่าย ๆ แต่ก็ใส่ใจที่จะเอาหินก้อนสไตล์เก่ามาทำเป็นทางเดินให้เข้ากับบรรยากาศ  จากนั้นจะมีป้ายบอกทางที่จะไปยังห้องพักต่างๆ ท่ามกลางดอกไม้สีชมพู ซึ่งทางขวามือจะเป็นห้องพักแบบ English Country 1,2 ,3 ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องอาหารและห้องน้ำ แต่ถ้าตรงไปป้ายบอกว่าไปภูทับเบิก ซึ่งเป็นที่เที่ยวอีกแห่งที่จะไปในวันรุ่งขึ้น 


     
     เมื่อเดินมาทางขวามือเพื่อจะไปห้องพักตามข้างทางจะพบดอกหญ้าปลิวไสวไปทั่ว ทำให้ดูแล้วเพลิดเพลินกับการจัดสวนที่ดูแบบเรียบง่ายแต่ก็ให้อารมณ์ในการชื่นชมได้ไม่น้อยทีเดียว จึงไม่รีบร้อนที่จะเข้าห้องพักทั้ง ๆ ที่เหนื่อยมาทั้งวันแล้วก็ตาม จึงได้ทอดน่องไปเรื่อย ๆ มือสัมผัสกับดอกหญ้าริมทาง ซึ่งถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าสีของดอกหญ้าจะตัดกับหญ้าสีเขียวขจีได้อย่างสวยงาม 




    ในส่วนของห้องพักพอเข้ามาด้านในก็ต้องยกนิ้วให้กับไอเดียในการตกแต่งของเจ้าของรีสอร์ทที่ทำออกมาทั้งตัวบ้านและภายในได้อย่างลงตัว ซึ่งเห็นแล้วไม่รู้จะบรรยายอย่างไรบอกได้คำเดียวว่าฟินสุด...สุดก็แล้วกันและห้องที่เห็นอยู่นี้เป็นแบบเตียงคู่ที่เหมาะกับคู่รักที่จะมาสวีทกัน เพราะสีสันภายในห้องดูแล้วซอฟ์ทด้วยโทนสีอ่อน ตัดกับผนังที่ปูด้วยอิฐสีน้ำตาลเข้มประดับด้วยรูปนกบนผนัง ส่วนเพดานทรงสูงแบบมีคานในสไตล์บ้านเก่าติดพัดลมคลาสสิค และยังมีที่นั่งเล่นอยู่ริมหน้าต่างให้นั่งคุยกันอย่างสบายใจ  


      
        แต่มาเที่ยวพักผ่อนกันแบบครอบครัวคงต้องเลือกห้องพักที่มีแบบ 2 ชั้น ซึ่งห้องด้านล่างจะเป็นที่นอนของพ่อแม่ ส่วนด้านบนจะเป็นเตียงนอนแบบเดียว 2 เตียง ซึ่งเป็นมุมส่วนตัวของลูก ๆ ที่ทำเป็นเหมือนห้องใต้หลังคา เน้นโทนห้องสีเหลืองตัดกับพื้นไม้ปาเก้สีน้ำตาลเข้ม ตกแต่งด้วยโคมไฟวินเทจ และเชื่อว่าลูก ๆ ครอบครัวไหนที่มาพักผ่อนน่าจะชื่นชอบกันไม่น้อย  



        
     พอเข้ามาถึงห้องพักก็ไม่ใช่จะอุดอู้ดูทีวีอยู่แต่ในห้องอย่างเดียว  เดินออกมานอกห้องทางด้านหลังจะเจอกับอีกมุมของห้องพักที่อยู่ด้านนอกทำเป็นระเบียงไว้ให้นั่งพักผ่อน และที่เห็นอยู่นี่เป็นมุมระเบียงของแต่ละห้องที่ต่างกัน โดยภาพห้องด้านบนสามารถมองเห็นภาพวิวที่เป็นธรรมชาติได้อย่างทั่วถึง  และภาพห้องด้านล่างมีระเบียงโต๊ะนั่งเก้าอี้หวายกับสวนดอกไม้สีม่วงขนาดใหญ่ที่เห็นแล้วสดชื่น