ค่ายม้าผยองแบรนด์เฟอร์รารี่ หาเรื่องยั่วใจมหาเศรษฐีที่นิยมความเร็ว ด้วยการปล่อยไฮเปอร์คาร์รุ่นพิเศษออกมายั่วใจด้วยขุมพลังไฮบริดเครื่องแบบ V12 ที่สามารถสร้างความแรงได้สุดขั้วมากถึง 1036 แรงม้า โดยมีแผนผลิตจำนวนจำกัด เพื่อสร้างคุณค่าเป็นยานยนต์หายากรุ่นหนึ่งของโลก
ค่ายอิตาลีได้ทำการพัฒนา Ferrari FXX K จากรุ่นมาตรฐาน LaFerrari โดยใช้ขุมพลังไฮบริดนวัตกรรม และได้จัดงานเปิดตัวครั้งแรกที่สนามแข่ง Yas Marina Circuit ในกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
เฟอร์รารี่ผลิต FXX K ด้วยเทคโนโลยีรถแข่ง และจัดไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้เป็นรถแข่ง แต่จากการใช้อุปกรณ์นวัตกรรมเฉพาะตัว ซึ่งอยู่นอกเหนือกติกาการผลิตรถแข่ง ทำให้ไม่สามารถนำลงแข่งขันได้ ทั้งนี้ค่ายอิตาลีต้องการให้ซูเปอร์คาร์รุ่นนี้ เป็นยานยนต์พิเศษที่มีคุณสมบัติและสมรรถนะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง
ทางด้านขุมพลังไฮบริดนวัตกรรม HY-KERS (Hybrid-Kinetic Energy Recovery System) ประกอบด้วยเครื่องเบนซิน แบบ V12 ขนาด 6.3 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยจัดวางขุมพลังไว้กึ่งกลางด้านหลัง และส่งกำลังสู่ล้อหลัง ด้วยเกียร์อัตโนมัติดูอัลคลัตช์ 7 สปีด
สำหรับกำลังสุงสุดที่เครื่องยนต์ปั๊มกำลังเพิ่มจาก 789 แรงม้า (800 PS) ในรุ่นมาตรฐาน ขึ้นไปที่ 848 แรงม้า (860 PS) และแรงบิดเพิ่มจาก 700 นิวตัน-เมตร ขึ้นไปที่ 750 นิวตัน-เมตร ผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถให้กำลังเพิ่มจาก 160 แรงม้า (163 PS) ในรุ่นมาตรฐาน ขึ้นไปที่ 187 แรงม้า (190 PS)
และนั้นทำให้กำลังรวมของ 2 ขุมพลัง เพิ่มจาก 950 แรงม้า (963 PS) ในรุ่นมาตรฐานขึ้นไปที่ 1036 แรงม้า (1050 PS) ก้าวเป็นยานยนต์รุ่นพลังดุสุดเท่าที่เฟอร์รารี่เคยผลิตมา ส่วนแรงบิดรวม ทำได้เท่ากับรุ่นมาตรฐานที่ 900 นิวตัน-เมตร
ค่ายอิตาลีมีแผนผลิตรถแข่งสำหรับสะสมรุ่นนี้จำนวนจำกัดเพียง 32 คัน โดยตั้งราคาเริ่มต้น (ไม่รวม VAT) ไว้ที่ 2.2 ล้านยูโร (ประมาณ 90.2 ล้านบาท) แม้ราคาจะสูงลิ่ว แต่ค่ายอิตาลีไม่มีแผนขายให้ลูกค้าทั่วไป โดยสงวนไว้ให้ลูกค้า วี.ไอ.พี.ที่ทางบริษัทคัดเลือกเองเท่านั้น
สำหรับมหาเศรษฐีที่ ”โชคดี” ได้รถแข่งไฮเปอร์รุ่นนี้ไปครอง ทางเฟอร์รารี่ จะเชิญนำรถมาขับสัมผัสความเร้าใจในโครงการ Client-Test Drivers นอกจากขับในโครงการดังกล่าวแล้ว เจ้าของรถแข่งราคาล้ำลึกรุ่นนี้มีอีกเพียงช่องทางเดียวในการใช้รถ นั่นคือไปขับในสนามแข่งแบบส่วนตัว เนื่องจากใช้บนถนนสาธารณะไม่ได้ อีกทั้งไม่สามารถนำลงแข่งรายการมาตรฐานได้ ที่เหลือนอกจากนั้น ก็คือเก็บรักษาไว้ที่บ้านเพื่อความภาคภูมิใจ