ประเดิมต้นปีกับค่ายฮอนด้า ในการเสริมทัพด้วย “ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่” เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาเติมเต็มความต้องการที่หลากหลาย โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ มีสไตล์ แข็งแกร่ง และให้ความรู้สึกพรีเมียมทันสมัย ตามสไตล์ชีวิตยุคใหม่ ห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบายพร้อมเบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ พร้อมด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ผสานเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดี 16.7 กม./ลิตร
รูปโฉมภายนอกโดดเด่นไม่เหมือนใครกับการออกแบบที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวสไตล์เอสยูวี โดยมีกระจังหน้าโครเมียม กับไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED sequential และไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED พร้อมระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา กับระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง ส่วนกระจกมองข้างแบบมีไฟเลี้ยวในตัวที่ปรับและพับไฟฟ้า มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ เสาอากาศแบบครีบฉลาม กับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วและไฟท้ายแบบ LED กับไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ส่วนในรุ่น RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน เด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต กับโลโก้สัญลักษณ์ RS และไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ขณะที่กระจกมองข้างแบบไฟเลี้ยวที่สามารถปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารให้ความสบายมีสไตล์ที่โดดเด่น เสริมความพรีเมียมมากขึ้นด้วยภายในสีดำ วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่งแถบสีเงิน โดยพวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน ปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมมือจับประตูด้านในสีเงิน เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้ากับด้ายสีน้ำเงิน และเบาะแถวหลังแบบ 60:40 (ซ้ายหรือขวา) แบบพับเบาะแถวหลังทั้งหมด วัสดุที่ใช้กับเบาะที่นั่งให้สัมผัสนุ่ม
ตามมาด้วยระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย
ขณะที่พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ที่มีปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (รุ่น RS) และช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง กับช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง ส่วน ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น RS) ที่สำคัญมี Honda CONNECT เทคโนโลยีที่เชื่อมคุณและรถยนต์เข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการทำงานของแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน (รุ่น RS)
ภายในให้ความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้นกับรุ่น RS ตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่ง Piano black แถบสีแดง ซึ่งเบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ หุ้มเบาะด้วยหนังสังเคราะห์สีดำ พร้อมตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีแดง ส่วนพวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ปรับระดับสูง-ต่ำได้ คิ้วบันไดสเตนเลสที่ประตูหน้า พร้อมสัญลักษณ์ RS และระบบปรับอากาศอัตโนมัติกับระบบทำความเย็นเร็วและโหมดทิศทางลมเพื่อความสะดวกสบาย และมีพนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV) หรือด้านหน้าและด้านหลัง (รุ่น RS)
ส่วนแผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น SV) และแบบมีฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS) กระจกมองหลังแบบตัดแสง กระจกไฟฟ้า 4 บานพร้อมระบบปรับขึ้นลงอัตโนมัติด้านคนขับช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ที่วางแก้ว 6 ตำแหน่ง ที่แขวนของในพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ไฟภายในห้องโดยสาร 2 ตำแหน่ง ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย ราวมือจับ 3 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 4 ตำแหน่ง (รุ่น RS)
เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทรงพลังแต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยอัตราการประหยัดน้ำมัน 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
ทางด้านความปลอดภัยมีให้ในทุกรุ่นย่อยกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันและระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน(รุ่น RS) ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง (รุ่น RS) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
รวมถึงระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตช์ควบคุมตำแหน่งคนขับ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง แบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารแถวที่ 2 แบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก )โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
สำหรับสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า
ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ เป็นเอสยูวีที่มาดเท่ลงตัว มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นได้แก่ รุ่น RS ราคา 869,000 บาท กับรุ่น SV ราคา 799,000 บาท พร้อมแคมเปญฟรีประกันภัย 1 ปีกับดอกเบี้ย 2.29%และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 โดยดูเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 02341-7777