เมื่อเอ่ยถึงปลัดขิกอันดับต้น ๆ ของไทย เชื่อว่าหลายท่านมักจะคุ้นหู และมีคนพูดติดปากให้ได้ยินกันบ่อย ๆ ก็คงต้องนึกถึงปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก กับปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ และรองลงมาอันดับสามเห็นจะเป็นปลัดขิกดันดะของหลวงพ่อฟัก วัดนิคมประชาสรรค์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่มีอานุภาพความขลังในด้านเมตตามหาเสน่ห์และครบเครื่องในทุกด้าน
สำหรับปลัดขิกหลวงพ่อฟัก เป็นอีกสำนักหนึ่งที่กำลังมาแรงในอันดับแถวหน้า ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์มาตรฐาน โดยแกะเป็นรูปทรงคล้ายเพชรพญาธร ที่ไม่ซ้ำแบบใคร พร้อมกับรอยจารอักขระรอบตัวปลัดขิก และจากประสบการณ์ปากต่อปากในเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ที่ช่วยให้จีบผู้หญิงง่ายขึ้น ทำให้ปลัดขิกของหลวงพ่อฟัก ได้รับฉายาว่า “ปลัดขิกดันดะ”
หลวงพ่อฟัก ท่านเป็นลูกศิษย์ที่เรียนวิชาการทำปลัดขิกมาจากหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เจ้าของฉายาปลัดขิกอันดับ หนึ่งของเมืองไทย โดยศิษย์ที่ร่วมเรียนคู่กันมาก็คือ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส เรียกได้ว่าหลวงพ่อฟัก ท่านสืบทอดเชื้อสายวิชาปลัดขิกอันโด่งดัง แต่ได้นำมาประยุกต์ให้มีรูปแบบเฉพาะตนไม่ซ้ำแบบใคร โดยแกะเป็นรูปคล้ายเพชรพญาธร มีหัว มีหาง มีขา และมีไข่ เพียงแค่รูปทรงก็พอจะแยกแยะได้อย่างชัดเจน ซึ่งนับว่าเป็นศิลปะองค์ต้นแบบเฉพาะตัว
ส่วนในยุคหลัง ๆ ต่อมาก็มีปลัดขิกของหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก หรือหลวงพ่อตัด วัดชายนา ที่ได้มีการแกะปลัดในรูปแบบศิลปะของหลวงพ่อฟักเหมือนกัน สำหรับหลวงพ่อฟัก ท่านเป็นพระที่เก่งอาคมขลัง มีรูปร่างสูง ผิวค่อนข้างเข้ม ซึ่งแววตาดูเข้มขลัง มีพลังตบะเดชะ และมหาอำนาจยิ่งนัก โดยเครื่องรางของขลังที่ท่านสร้างและมีประสบการณ์มากที่สุดคือ “ปลัดขิก” ซึ่งปลัดขิกของท่านมีอานุภาพไม่แพ้พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าเลย เช่น โดนยิงไม่เข้า หรือเผลอเหยียบงู...แต่งูอ้าปากไม่ขึ้น ฯลฯ
สำหรับค่าเช่าบูชาปลัดขิกของหลวงพ่อฟักนั้น ท่านจะปลุกเสกและลงจารอักขระที่ปลัดขิกอย่างเข้มขลังและพิถีพิถัน จึงส่งผลดีทางเมตตามหาเสน่ห์แคล้วคลาดจากภยันตรายต่าง ๆ นอกจากนี้ยังใช้ทางป้องกันภูตผีปีศาลได้อีกด้วย สร้างจากไม้พญาดำรง (ไม้ดำดง), ไม้คูณ, ไม้รักแดง, ไม้มะนาวผี และงาช้าง ซึ่งหายากและมีน้อยกว่าวัสดุชนิดอื่น เพราะว่าหายากและมีราคาแพงมากกว่านั่นเอง ส่วนราคาทำบุญจากวัดสมัยนั้นต้องนำสิ่งของดังนี้มาเป็นค่าครู ซึ่งมีปูนซีเมนต์จำนวน 2 ตัน, ธูป 4 ดอก, ดอกไม้ 4 สี และเทียน 4 เล่ม รวมราคาประมาณ 3,500 บาท สมัยนั้นถือว่าแพงมาก
ปลัดดันดะ หลวงพ่อฟัก..ท่านจะลงจารหัวใจคาถาต่าง ๆ “นะหิหะหุ จะฉะ ดันดะ” ที่ได้ฉายา “ปลัดขิกดันดะ” แท้จริงแล้วก็มีที่มาจากอักขระที่ลงอยู่ที่หัวปลัดขิกนั่นเอง ผีเจอก็กระเจิงแน่..เพราะท่านลงหัวใจท้าวเวสสุวัณที่ลำตัว “เวสสะพุสะ” ส่วนด้านเมตตามหาเสน่ห์ชั้นสูงลงหัวใจอิทธิเจ “อิธะคะมะ”, หัวใจเกราะเพชร “ภูตากังเก”, หัวใจนวหรคุณ.... “อะสังวิสุโลปุสะพุภะ”, หัวใจพาหุง (พระพุทธเจ้าชนะมาร)... “พามานาอุกะสะนะทุ”
และลงหัวใจเสฏฐัน.. “เสพุเสวะเสตะอะเส” (บทนี้มีปรากฏอยู่ในบทเสกของยันต์ตรีนิสิงเหฯ) และหัวใจกรณียเมตตาสูตร... “เอตังสะติง” อานิสงส์มีถึง ๑๑ ประการ เช่น นอนเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ล่วงพ้นจากยาพิษ แคล้วคลาดจากศัตราวุธทั้งปวง และหัวใจมหาอุด.. “อุทธัง อัทโธ” ก็ย่อมาจากบทกรณียเมตตาสูตรนี้เช่นกัน
สรุปแล้วปลัดขิกดันดะของหลวงพ่อฟัก วัดนิคมประชาสรรค์ เป็นเครื่องรางของขลังอันดับแถวหน้า ที่โดดเด่นทางด้านเมตตามหาเสน่ห์เน้นทางผู้หญิงโดยเฉพาะ พร้อมกับใช้ทางค้าขาย หรือคุ้มครองให้ปลอดภัยแคล้วคลาดจากอันตรายต่าง ๆ รวมถึงอยู่ยงคงกระพันและเป็นมหาอุด และยังป้องกันภูติผีได้ด้วย ทั้งนี้เพราะดูจากอักขระหัวใจคาถาโดยรวมทั้งหมดที่จารลงไปที่ปลัดขิก เรียกได้ว่าลงไว้ครบเครื่องใช้ได้ทุกอย่างเลย สนนราคาค่าเช่าเวลานี้ยังอยู่ประมาณหลักพันต้น ๆ ไปถึงหลักหมื่น
